พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์


ปีกสวย ที่ซ่อนเร้น (ผีเสื้อจันทรา (ตัวเมีย) ที่พบในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์)


อนุสาร อ.ส.ท. กุมภาพันธ์ 2551 หน้า 120 - 121 
คอลัมน์ โลกละมุน 
วิศาล น้ำค้าง...เรื่องและภาพ 


ปีกสวย ที่ซ่อนเร้น (ผีเสื้อจันทรา (ตัวเมีย) ที่พบในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์) 

 


ผีเสื้อจันทราตัวเมียเวลากางปีกสีจะออกน้ำเงินเข้มตามลายจุดเป็นสีฟ้าไล่โทนดูสวยงาม มองไกลๆ อาจคล้ายกับผีเสื้อ    ธารมรกตอยู่บ้างแต่จุดเด่นที่เห็นชัดเจนคือสีส้มสองขีดที่ปีกบนทั้งสองข้าง

   โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าบนโลกใบนี้ มักจะมีอะไรๆเกิดขึ้นมาควบคู่และตรงข้ามกันอยู่เสมอๆ จะเพื่อให้เราได้ขบคิดเปรียบเทียบ ขัดแย้ง หรือถ่วงดุลกันก็แล้วแต่ เช่นมีสีขาว(ที่เราต่างยกย่องให้เป็นพระเอก)ก็ต้องมีสีดำ (ที่มักจะถูกประณามให้เป็นแต่ผู้ร้าย เอ...แล้วอย่างนี้สีดำที่อยู่บนหัวของเราล่ะจะทำอย่างไรดี หรือต้องรอให้แก่เฒ่าจนผมขาวกันเสียก่อนจึงจะเริ่มเป็นพระเอกได้ โถ...คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะมันเป็นแค่คำเปรียบเทียบเปรียบเปรยที่คนเราอุปมาอุปไมยให้รู้สึกสำนึกขึ้นมาเท่านั้น เพราะความจริงแล้วคนเราไม่ว่าจะวัยไหนๆ อ้วนต่ำดำขาว ยากดีมีจน การกระทำดีประพฤติดีนั้น เป็นสิ่งที่ควรจะกระทำกันอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากทำเพื่อตัวเองก็คิดซะว่าทำเพื่อชาติบ้านเมืองเถิดครับ (ขืนมัวแต่รีรอเดี๋ยวพานจะเดินตามประเทศข้างบ้านเราไม่ทันพอดี) มีเรื่องขำๆ ก็ต้องมีเรื่องเศร้าๆ มีเรื่องโง่เขลาก็ต้องมีเรื่องฉลาด มีเรื่องอุบาทว์ก็ต้องมีเรื่องดีๆปะปนหมุนเวียนกันอยู่เช่นนี้เรื่อยมา อย่างบางประโยคที่ว่า ถ้าคนชั่วไม่มี แล้วคนดีจะมาจากไหน (สงสัยจะมาจากคนที่ไม่ค่อยจะน่าคบนัก) อะไรทำนองนี้

   เฮ้อ...ฟังๆ แล้วก็ต้องถกเถียงกันอีกนาน หรือไม่ก็ต้องเถียงกันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่งนั่นแหละเรื่องถึงจะสงบจบลงได้ ถ้าบังเอิญโชคร้ายโลกเกิดหมุนพาเราไปพบเจอกับคนประเภทนี้เข้า ชีวิตคงอับเฉาหาความสุขสงบได้ยากเต็มที ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงและเดินทางสายกลางเอาไว้จะดีกว่า เซซ้ายเซขวาก็ยังพอประคองกลับมาได้ง่าย ดีกว่าปล่อยให้อะไรๆ มันมาครอบงำจิตใจจนมืดบอด เดี๋ยวพานจะทำให้มองไม่เห็นอะไรๆ ในโลกกว้าง เหลียวไปทางไหนก็เห็นแต่ตัวตนอยู่คนเดียว เลยมองข้ามความสำคัญของผู้อื่นไปเสียหมด จากคนดีๆก็จะกลายเป็นกบในกะลาไปละแย่เลย

   สำหรับกิจกรรมในธรรมชาติอย่างการดูนกดูผีเสื้อก็เช่นกัน ตำราได้เขียนไว้ว่ามีทั้งชนิดที่หาดูได้ยากและหาดูได้ง่ายปนเปกันไป เพียงแต่ยังไม่มีการแยกดีแยกร้ายเพิ่มเข้ามาเหมือนสัตว์ที่ประเสริฐอย่างคนเราเท่านั้น ถ้าพูดถึงในส่วนของผีเสื้อแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเคยบอกไว้ว่า เรามักจะพบเห็นผีเสื้อเพศผู้มากกว่าผีเสื้อเพศเมียเสมอ อาจหนึ่งในสามหรือมากกว่านั้นก็เป็นได้แล้วแต่ชนิด นั่นคือกลไกทางธรรมชาติที่เรายังต้องเรียนรู้ บางชนิดหายากที่โน้น แต่กลับหาง่ายที่นี่ หรือในทางกลับกัน ที่นี่อาจหายาก แต่ที่โน้นกลับพบได้ง่าย อะไรอย่างนี้ คงจะเป็นด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เป็นเช่นนั้น แหล่งพืชอาหาร สภาพอากาศ ระดับความสูง ความอุดมสมบูรณ์ของป่า และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สิ่งเหลานี้ล้วนมีความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตบนโลกด้วยกันทั้งสิ้น 


  


หลังจากที่ได้พักและดุน้ำหวานอยู่นานจนมีแรงก็เริ่มจะเดินไต่ไปมาไม่ยอมหยุด (พรรณ์ศักดิ์ สมวงศ์...ภาพ) 


  


พอทุกอย่างดูดี จึงให้เขาเดินไต่ตามมือขึ้นมา เพื่อนำไปปล่อยในที่สุด (สุรชัย อำนวยชัย...ภาพ) 


  


นี่คือปีกอีกคู่ที่ถูกเด็ดร่วงลงมาอยู่ข้างๆ โดยไม่มีโอกาสจะเห็นตัวเป็นๆ

   อย่างผีเสื้อจันทรา The Eastern Conrtier (Sephisa Chandra) ตัวนี้ ในตำราบอกไว้ว่าไม่เชิงหายากอะไรนักเพราะเรายังสามารถพบได้ในธรรมชาติที่สมบูรณ์ แต่จากข้อสังเกตหลายปีที่ผ่านมา ผมพบและเห็นผีเสื้อจันทราอยู่หลายครั้ง แต่ก็เป็นผีเสื้อเพศผู้ทั้งหมด ส่วนผีเสื้อจันทราเพศเมียในธรรมชาตินั้น ทั้งผมเองและเพื่อนๆ ยังไม่เคยพบเจอกันเลยสักที จนกลายเป็นข้อสงสัยพูดคุยกันเล่นต่างๆนานาว่า ทำไมเราจึงพบเห็นแต่ผีเสื้อตัวผู้นะ แล้วตัวเมียล่ะ หายไปไหน ถ้าหากไม่มีผีเสื้อตัวเมีย แล้วเจ้าตัวผู้จะเกิดมาได้อย่างไร เถียงมาเถียงไปเกือบจะเลยเถิดไปถึงไก่กับไข่ว่าอะไรเกิดก่อนกัน หรือผีเสื้อตัวเมียจะออกมาตอนเห็นพระจันทร์ อย่างพวกผีเสื้อใกล้รุ่งและผีเสื้อสายัณห์ที่ชอบออกมาหากินตามชื่อตามเวลากัน ฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่จนแล้วจนรอด วันเวลาก็ล่วงเลยมาหลายสิบปีอย่างที่บอก เราจึงได้แต่เก็บข้อสงสัยและรอคอย

   ช่วงเดือนที่พายุ “เลกีมา” หอบเอาเมฆฝนมาโปรยปราย สร้างความชุ่มฉ่ำให้เกือบทั่วทุกภาคนั้น บนดอยสุเทพในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีผีเสื้อจันทราตัวหนึ่งลงมาเกาะแน่นิ่งอยู่บนพื้นที่เปียกปอน โงนเงนด้วยแรงของเม็ดฝนที่โปรยลงมาอย่างไม่ขาดสาย ข้างๆ ไม่ไกลนัก มีปีกอีกคู่หนึ่งถูกเด็ดทิ้งไว้โดยฝีมือของนกติตแก้มเหลืองหรือนกติตใหญ่ที่มีอยู่ชุกชุม 

   เมื่อ คุณสุรชัย อำนวยชัย เจ้าหน้าที่ในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เดินสำรวจตรวจตรามาพบและเห็นว่าเป็นผีเสื้อจันทราเพศเมียที่เราเคยพูดถึง จึงบอกให้ผมรีบมาดู เราเอาเขาเข้าไปดุแลในห้องกระจกที่มีแสงไฟพออบอุ่น ราวสองชั่วโมงจึงเริ่มเดินไต่ไปมา พลังงานจากน้ำหวานเจือจางที่เราหามาให้เขาดูดกินคงจะได้ผล ไม่นานนักเมื่อทุกอย่างดูดี ฝนขาดเม็ดและแสงเริ่มสาดส่อง ปีกที่แสนสวยคู่นั้นจึงเริ่มขยับ แล้วโบยบินขึ้นไปอย่างอิสระอีกครั้งผมดีใจที่ได้เก็บภาพผีเสื้อจันทราผู้ลึกลับและรอคอยอยู่หลายปีมาฝากให้ทุกคนได้ดูกัน แต่ตอนที่เห็นเขาขยับปีกและโบยบินกลับขึ้นไปใช้ชีวิตในธรรมชาติได้อีกครั้งนี่สิ ดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีกว่าตอนไหนๆ


ขอขอบคุณ
คุณสุรชัย อำนวยชัย คุณพรรณ์ศักดิ์  สมวงศ์ เจ้าหน้าที่ในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ที่พบและช่วยเหลือในการถ่ายภาพ 


พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทร.0-5322-3065 โทรสาร.0-5322-5793
อีเมล์ bhubingpalace@yahoo.co.th


*งดเข้าเยี่ยมชมช่วงเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับแรม
*กรุณาแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น, กระโปรงสั้น, เสื้อแขนกุด

Copyright © 2016 Bhubing Palace. All rights reserved.